เช็คด่วน ปริมาณนิโคติน ในบุหรี่แต่ละแบบ

เช็คด่วน ปริมาณนิโคติน ในบุหรี่แต่ละแบบ

ปริมาณนิโคติน ในบุหรี่ไฟฟ้าเลือกแบบไหนให้เหมาะกับตนเอง

หนึ่งในเหตุผล สำคัญที่หลายคน หันมาเลือก สูบบุหรี่ไฟฟ้า กันมากขึ้น เพื่อหวังดูแลสุขภาพของตนเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม อย่างน้อยที่สุดก็ลดสารบางชนิดที่มีในบุหรี่จริงลงได้ เช่น สารทาร์จากการเผาไหม้ ส่วนเรื่องของนิโคตินเองที่แม้ส่วนใหญ่จะบอกว่าไม่ได้ส่งผลเสียใดต่อร่างกายมากนัก แต่ก็มีส่วนทำให้เกิดอาการเสพติด ดังนั้น บุหรี่ไฟฟ้า ที่สามารถเลือก ปริมาณนิโคติน เองได้จึงตอบโจทย์ไม่น้อย แต่คำถามคือจะเลือกปริมาณนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าอย่างไรให้เหมาะกับตนเองที่สุด

กำหนดปริมาณนิโคตินพื้นฐานตามพฤติกรรมการสูบ

จริง ๆ แล้วการจะบอกว่าควรเลือกสูบ ปริมาณนิโคติน ในบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนเท่าไหร่ กี่เปอร์เซ็นต์ กีมิลลิกรัม คงเป็นเรื่องยาก เพราะไม่มีใครมานั่งกำหนดเอาไว้ตายตัวอยู่แล้ว ดังนั้นจึงควรมีการทำความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของตนเองก่อนว่ามากน้อยแค่ไหนแล้วจึงสามารถระบุปริมาณของการสูบบุหรี่ไฟฟ้าได้ชัดเจนขึ้น เช่น

  • การสูบระหว่างวันไม่เกิน 10 มวน สำหรับคนที่ต้องเข้าสังคม หรือปาร์ตี้กับเพื่อนฝูง
  • การสูบหนักตลอดวัน 1 ซอง
  • การสูบหนักมากตลอดวันเกิน 1 ซอง หรือสูบมวนต่อมวน

เมื่อเข้าใจถึงปริมาณการสูบของตนเองแล้วคราวนี้ก็จะสามารถเลือกประเภทบุหรี่ไฟฟ้าที่เหมาะสมกับตนเองได้มากขึ้น ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่

ประเภทบุรี่ไฟฟ้าที่เหมาะกับการสูบของแต่ละคน

1.บุหรี่ไฟฟ้าประเภทควันน้อย

จะเป็นพวก Pod System ที่ปริมาณควันออกมาจะใกล้เคียงกับบุหรี่จริง คือควันไม่ได้เยอะมากนัก แทงก์น้ำยาจะเป็นชนิด MTL รูลมไม่ใหญ่ เหมาะกับน้ำยากกลุ่ม Salt Nic ที่ระดับความเข้มข้นสูงราว ๆ 30-60 มก.

2.บุหรี่ไฟฟ้าประเภทควันปานกลาง

Pod System ที่มีคอยล์แบบ Sub-Ohm หรือแทงก์ประเภท MTL บางรุ่นก็ยังคงทำได้ให้ควันออกมามากกว่าแบบแรก น้ำยากที่นิยมจะเป็นกลุ่ม Freebase ที่มีปริมาณ 6-9 มก. หรือ Salt Nic 20-30 มก.

3. บุหรี่ไฟฟ้าประเภทควันเยอะมาก

ต้องใช้คอยล์ชนิด Sub-Ohm หรือ RBA รูลมใหญ่ นิยมใช้น้ำยา Freebase 1.5 – 6 มก. มากกว่าเพราะ Salt Nic จะหายาก และไม่ค่อยถูกใช้งาน หรือถ้าหาได้ก็จะมีปริมาณราว 10 มก.

ทั้งนี้การคำนวณปริมาณนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าให้สังเกตจากด้านข้างของตัวบรรจุภัณฑ์น้ำยา ซึ่งจะระบุตัวเลขมาเป็นหน่วย มิลลิกรัม ต่อ มิลลิลิตร ก็ให้นำไป x10 จะได้ออกมาเป็นปริมาณนิโคตินทั้งหมด แต่อย่าพึ่งตกใจ เพราะไม่มีใครสูบครั้งเดียวหมดอยู่แล้ว ใน 1 ขวดน้ำยาอาจสูบได้ราว ๆ 200-250 ครั้ง ดังนั้นปริมาณนิโคตินที่คุณจะได้รับก็คือนำเอาหน่วยของนิโคตินมาหารกับปริมาณครั้ง และจะออกมาน้อยมาก ๆ

Loading